ปราสาท Dover อภิมหาปราการแห่งอังกฤษ

แบ่งปันให้เพื่อน :

เส้นทางฝั่งตะวันออกของเกาะอังกฤษ เป็นดินแดนที่ติดกับชายทะเล มีมณฑล Kent เป็นแผ่นดินใหญ่และมีเมือง Dover ซึ่งสถาปนาเมืองมาในช่วงของพระเจ้าวิลเลียม (William the Conqueror) ในศตวรรษที่ 10

ตรงข้ามกับชายทะเลของประเทศฝรั่งเศส เป็นส่วนที่แคบที่สุด เรียกว่าช่องแคบโดเวอร์ (ฝั่งอังกฤษ) หรือช่องแคบกาแลส์ (ฝั่งฝรั่งเศส) มีความกว้างเพียง 34 กิโลเมตร ตรงข้ามกับเมืองหน้าด่านของฝรั่งเศสคือเมือง Dunkurk

ปราสาทโดเวอร์ (Dover Castle) แห่งนี้ ได้ก่อสร้างขึ้นจากพระดำริของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 2 เมื่อประมาณปีค.ศ. 1179-1188 เพื่อเป็นปราการและหอรบขนาดใหญ่ ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงทั้งรอบใน และรอบนอก

ในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ มีบันทึกการทำสงคราม และเกี่ยวข้องกับปราสาทโดเวอร์นี้หลายครั้ง แต่ที่บันทึกไว้เป็นสำคัญ เช่น ปีค.ศ.1216 มี “First Baron’s War” ซึ่งเกิดจากฝ่ายขุนนางกบฎของอังกฤษ ไปสนับสนุนพระเจ้าหลุยส์ที่ 8 ของฝรั่งเศส มาทำสงครามเพื่อล้มล้างพระเจ้าจอห์น แห่งอังกฤษ ซึ่งฝรั่งเศสเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

ต่อมามีสงครามกับนโปเลียน โบนาปาร์ด ก็เริ่มมีการสร้างอุโมงค์ใต้ดิน สำหรับให้พลทหารอาศัย เมื่อร้างสงคราม อุโมงค์ก็ว่าง จนกระทั่งถึงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปีค.ศ.1940 ฝ่ายนาซีเยอรมัน รุกรานประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรป และกำลังจะบุกเข้าอังกฤษ โดยใช้กองกำลังเข้าถล่มฝรั่งเศส โดยเฉพาะฝั่ง Dunkurk ทำให้มีทหารอังกฤษ ซึ่งประจำอยู่ในบริเวณ Dover หลายแสนนาย เสี่ยงต่อการถูกถล่ม

อุโมงค์จึงได้เปิดใช้อีกครั้งเพื่อติดตั้งเครื่องชุมสายโทรศัพท์ โต๊ะบังคับการเรือ และโต๊ะบังคับการปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน

วินสตัน เชอร์ชิลล์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้สั่งอพยพทหารฝรั่งเศสและอังกฤษ จากดันเคิร์ก กลับลอนดอน เรียกว่า “ปฏิบัติการไดนาโม” โดยมีพลเรือเอกเซอร์ เบอร์แทรม แรมซีย์ ผู้สั่งการ และมีรูปปั้นของเขายืนอยู่ข้างนอกอุโมงค์ เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา ที่สามารถช่วยชีวิตทหารไว้ได้เป็นจำนวนมาก

ประวัติศาสตร์อันยาวนานของอังกฤษ ที่เราสามารถซึมซับได้จากตัวหนังสือ และได้สัมผัสจากสถานที่จริงๆ ทำให้คุณสามารถจินตนาการถึงอดีตอันยิ่งใหญ่ของสหราชอาณาจักรแห่งนี้ ที่แม้ถึงวันที่ต้องเสี่ยงกับการรุกรานจนอาจสิ้นชาติ แต่ไม่เคยยอมสยบให้แก่ชาติใด นับเป็นเกียรติภูมิอันน่าภาคภูมิใจเป็นที่สุด